Solo Leveling: เส้นทางพลิกชะตาฮันเตอร์กระจอกสู่สุดยอดนักล่าแห่งโลกเหนือจินตนาการ
Solo Leveling
แต่งโดย: ชูกง
สถานะ: จบแล้ว
Total
Plot / Conflict
Atmosphere
Characters
Personal preference
Keywords - ประเด็นสำคัญในเรื่อง
นิยายแนวเกม / พระเอกสุดแกร่ง / พระเอกไร้พ่าย / ต่อสู้แอคชั่น
เรื่องย่อ
เมื่อโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง “เกต” ประตูมิติอันลึกลับที่ปล่อยเหล่าปีศาจและสัตว์ประหลาดเข้ามาโจมตีมนุษย์ เหล่าผู้คนที่สามารถต่อกรกับพลังเหนือธรรมชาติเหล่านี้จึงถูกเรียกว่า “ฮันเตอร์” โดยพวกเขาแบ่งเป็นระดับ S (ขั้นเทพ) ไปจนถึงระดับ F (ขั้นกระจอก) แน่นอนว่าคนที่ได้ฉายาว่า “ฮันเตอร์ระดับ F” คงไม่พ้น “ซองจินอู” ฮันเตอร์หนุ่มที่ไม่มีพลังอะไรโดดเด่น แถมยังโดนคนรอบข้างมองว่าไร้ค่ามาตลอดชีวิต แต่ถึงจะกระจอกแค่ไหน เขาก็ยังจำใจลุยเพราะต้องหาเงินมารักษาแม่และดูแลน้องสาวให้ได้
ในขณะที่คนอื่นๆ เข้าสู่เกตด้วยความหวังที่จะเป็นฮีโร่ ซองจินอูกลับเข้าดันเจี้ยนด้วยใจแป้ว เพราะทุกครั้งเขาก็ต้องเสี่ยงตายแบบสุดๆ วันหนึ่งในภารกิจที่ดูเหมือนจะง่าย พวกเขาก็พบว่าตัวเองติดอยู่ในดันเจี้ยนซ้อนที่มีระดับสูงเกินกว่าฮันเตอร์ธรรมดาจะรับมือได้ บรรยากาศกดดันถึงขีดสุดเมื่อมอนสเตอร์หินยักษ์เริ่มไล่ฆ่าทีมของเขาทีละคน ทีมของซองจินอูเริ่มแตกฮือ ท่ามกลางความสิ้นหวัง เพื่อนร่วมทีมฮันเตอร์ผู้ที่เขาเคารพก็โดนโจมตีจนเสียแขนไป ส่วนฮีลเลอร์สาวก็ถึงกับทรุดหมดสติ ซองจินอูที่ถูกดันจนมุมไม่มีทางหนี จึงตัดสินใจเสียสละตัวเองให้เพื่อนหนีไป เขายอมรับความตายแล้ว…แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถัดไปกลับเกินคาด!
ในชั่วขณะสุดท้ายก่อนจะหมดสติ หน้าจอแปลกประหลาดโผล่ขึ้นในความมืด มันบอกเขาว่า เขาได้รับสิทธิ์เป็น “ผู้เล่น” ในเกมนี้ การเป็นผู้เล่นคนเดียวในโลกที่เต็มไปด้วยฮันเตอร์นั้นไม่ได้มาแบบธรรมดา เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล แต่คราวนี้เขารู้สึกถึงพลังใหม่ในร่างกาย และพบว่าเขาสามารถอัปเกรดความสามารถตัวเองได้เหมือนกับตัวละครในเกม! ไม่มีข้อจำกัด ไม่มีแรงค์ที่ล็อคพลังเขาไว้อีกต่อไป ซองจินอูได้เจอกับความลับแห่งการฝึกฝนที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัส และเส้นทางสู่การเป็นฮันเตอร์อันดับหนึ่งก็เปิดออกแล้ว
จากฮันเตอร์ที่ไม่มีใครสนใจ ซองจินอูกลับทุ่มเทฝึกฝนทุกวัน เปลี่ยนจาก F ค่อยๆ ไต่ไปยังระดับสูงกว่าเดิมเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเขาก้าวสู่แรงค์ S ที่แม้แต่ฮันเตอร์ระดับสูงสุดยังต้องมองด้วยความทึ่ง การฝึกที่เขาผ่านมาสร้างความแกร่งเกินใคร แถมเขายังค้นพบ “พลังแห่งจักรพรรดิ์เงา” ที่ทำให้เขาสามารถอัญเชิญเงาของมอนสเตอร์หรือฮันเตอร์ที่เขาเคยปราบมาช่วยสู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด! ด้วยพลังนี้ เขาสามารถอัญเชิญกองทัพนักรบ จอมเวทย์ ฮีลเลอร์ หรือแม้แต่มอนสเตอร์เล็กๆ มาเป็นทหารรับใช้ เขากลายเป็นฮันเตอร์ไร้จุดอ่อน เป็นทัพครบทุกหน่วยในคนเดียว ไม่ว่าศัตรูหรือเกตใดก็ไม่อาจสกัดกั้นเขาได้
การเดินทางของซองจินอูเต็มไปด้วยการต่อสู้สุดเข้มข้นกับพวกฮันเตอร์อันตราย กิลด์ใหญ่ที่ไม่ไว้ใจเขา และความลับมืดที่ซ่อนอยู่ในเกตที่ไม่เคยเปิดเผย เมื่อฮันเตอร์แรงค์ S อย่างซองจินอูเผชิญหน้ากับศัตรูที่ลึกลับและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางของเขาเต็มไปด้วยการต่อสู้ที่ไม่มีใครคาดคิด และความลับที่อาจพลิกโลกใบนี้อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน!
Solo Leveling เป็นการเดินทางที่ท้าทายสุดมันส์ของฮันเตอร์ที่มาจากแรงค์ล่างสุด สู่การเป็นตำนานไร้พ่ายในโลกที่เต็มไปด้วยปริศนา และพลังที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง
วิจารณ์ “Solo Leveling”: การสร้างโลกแฟนตาซีสะท้อนสังคมทุนนิยมในเกาหลีใต้ผ่านเส้นทางของฮันเตอร์
จากมุมมองของผู้ติดตาม Solo Leveling ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ติดตามการเติบโตของตัวละครหลัก “ซองจินอู” ที่เริ่มจากฮันเตอร์แรงค์ F ไร้ฝีมือ ค่อยๆ ก้าวสู่จุดสูงสุดในโลกที่เต็มไปด้วยพลังเหนือธรรมชาติ การเดินทางของเขาเป็นแรงจูงใจให้ผู้ชมคอยเอาใจช่วยและลุ้นว่าเขาจะสามารถพิชิตอุปสรรคไปได้ถึงระดับใด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสน่ห์สำคัญของเรื่องที่ยึดแฟนๆ ไว้ได้แน่นหนา
นอกจากการเติบโตของตัวละครหลักแล้ว การออกแบบโลกแฟนตาซีที่ซ้อนอยู่บนโลกจริงของเกาหลีใต้ซึ่งชูกง ผู้เขียนได้สร้างขึ้นมานั้นมีความน่าสนใจและสมจริง จนต้องยอมรับว่าแม้แนวคิดของดันเจี้ยนที่โผล่ขึ้นบนโลกอาจไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่การนำเสนอแบบนี้ทำให้เห็นความชัดเจนและรายละเอียดในหลายมิติ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาพการเมืองและสังคมเกาหลีภายใต้ระบบการปกครองที่มีฮันเตอร์เป็นศูนย์กลาง เราได้เห็นการแบ่งชั้นทางสังคมและการจัดวางตำแหน่งที่แตกต่างของฮันเตอร์ โดยฮันเตอร์ระดับสูงมีสิทธิ์และสถานะเหนือกว่าคนธรรมดา อีกทั้งการแบ่งระดับในหมู่ฮันเตอร์เองยังแสดงให้เห็นถึงชนชั้นในกลุ่มพวกเขาอีกด้วย
แม้ว่าพื้นฐานของเรื่องจะอยู่ในโลกของเกมและการต่อสู้เพื่อเลื่อนระดับ แต่ภายใต้โครงสร้างนี้ก็ยังสะท้อนความเป็นจริงของเกาหลีที่มีการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน ฮันเตอร์แต่ละคนที่ปลุกพลังได้แทบจะเปรียบเหมือนคนที่เกิดมาในชนชั้นที่ถูกกำหนดไว้แล้วในสังคม พวกเขาถูกจำกัดด้วยระดับและทรัพยากรที่ได้รับตั้งแต่แรกเกิด โอกาสในการเลื่อนฐานะจึงน้อยมาก มีเพียงไม่กี่คน หรือบางทีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถทลายกำแพงนี้ได้ เช่นเดียวกับซองจินอูที่เป็นฮันเตอร์เพียงหนึ่งเดียวที่สะสมทรัพยากรและพลังอันไร้ขีดจำกัด
อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของเรื่องคือการใช้ “มอนสเตอร์เงา” ของซองจินอูที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของ “ทุน” ในโลกที่ถูกครอบงำด้วยทุนนิยม การที่เขาสามารถอัญเชิญและสะสมกองทัพเงาจำนวนมากมาช่วยรบได้เปรียบเสมือนการสะสมทรัพยากรและทุนในระบบเศรษฐกิจ ผู้ที่มีทุนมากกว่าย่อมได้เปรียบในเกมแห่งชีวิต การสะสมเงาของซองจินอูจึงเปรียบเสมือนการสะสมทรัพยากรเพื่อใช้ควบคุมและครองอำนาจ ซึ่งชูกงสามารถสื่อถึงเกมแห่งการสะสมทุนที่เข้มข้นในเกาหลีใต้ได้อย่างชัดเจน
Solo Leveling ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของฮีโร่ผู้พิชิตทุกสิ่งเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนระบบการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและการสะสมทุน ความฝันและการไต่เต้าของซองจินอูจึงไม่ใช่แค่เรื่องแฟนตาซี หากเป็นการสะท้อนโครงสร้างสังคมทุนนิยมของเกาหลีใต้ที่แฝงอยู่ในความสนุกและการต่อสู้ของฮันเตอร์
สหรัฐอเมริกา โลกเสรี และบทบาทของ Upgrader ใน Solo Leveling
เมื่อ Solo Leveling ปรากฏตัวละครสำคัญอย่าง “Upgrader” ผู้ที่มีบทบาทในการเสริมพลังและขยายขีดจำกัดของเหล่าฮันเตอร์ ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่าเหตุใด Upgrader หนึ่งเดียวในเรื่องจึงเป็นหญิงวัยกลางคนชาวอเมริกันที่มีผิวสี อาจเป็นเพราะการวางภาพตัวละครนี้สะท้อนถึง “ดินแดนแห่งเสรีภาพ” และโอกาสในแบบที่หลายคนมองสหรัฐอเมริกาว่าเป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนก้าวหน้าได้ ไม่ว่าจะมาจากพื้นเพใด
ภาพของ Upgrader ผู้หญิงผิวดำสูงวัย เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มคนชายขอบที่ต้องเผชิญประวัติศาสตร์การถูกกดขี่และต่อสู้กับระบบสังคมมายาวนาน ในสายตาของโลกภายนอก สหรัฐอเมริกาถูกมองว่าเป็น Land of the Free หรือดินแดนแห่งเสรีภาพที่เปิดกว้างให้คนจากทุกภูมิหลังไม่ว่าจะเพศ อายุ หรือเชื้อชาติ สามารถยกระดับตัวเองและปลดแอกจากขีดจำกัดเดิมของตนได้ การเดินทางของ Upgrader ผู้หญิงผิวสีในเรื่องจึงกลายเป็นภาพลักษณ์ที่สะท้อนความเชื่อในอุดมคติอเมริกัน ซึ่งวางตัวไว้เป็นต้นแบบแห่งความเท่าเทียมและโอกาส
ทั้งนี้ ความเป็น “Upgrader” ในเรื่องมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งกว่าแค่การเสริมพลัง เพราะเธอไม่เพียงแต่ขยายขอบเขตความสามารถให้แก่ฮันเตอร์ แต่ยังเป็นตัวแทนของการฝ่าฝืนกรอบประวัติศาสตร์ การทลายเพดานสังคม และการมีบทบาทที่สามารถสร้างผลกระทบอย่างยั่งยืนในโลกแฟนตาซีของ Solo Leveling และในโลกความจริง อเมริกาในฐานะดินแดนที่ยึดถือแนวคิดเสรีภาพถูกมองว่ามีศักยภาพในการสนับสนุนคนทุกกลุ่มให้เติบโต แต่คำถามที่น่าสนใจคือ ภาพลักษณ์ของเสรีภาพและโอกาสที่ Upgrader สะท้อนอยู่นั้น แท้จริงแล้วเป็นอย่างไรในมุมมองของคนในประเทศเอง?
ในขณะที่เรารับรู้ถึงอุดมคติอเมริกันเช่นนี้ เราก็ควรรับทราบด้วยว่า มุมมองเหล่านี้อาจเป็นการมองจากภายนอก ไม่ได้แปลว่าภายในสหรัฐฯ จะเป็นไปตามภาพที่สร้างไว้เสมอไป ดังนั้น ตัวละคร Upgrader ใน Solo Leveling จึงไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอบทบาทเชิงแฟนตาซี แต่ยังเป็นภาพสะท้อนมุมมองของโลกต่อสหรัฐอเมริกาที่ทั้งท้าทายและสร้างแรงบันดาลใจ
ชาตินิยมแบบย่อยง่ายใน Solo Leveling: ความฝันของฮีโร่และอุดมคติเกาหลี
ในฐานะที่ Solo Leveling เป็นสื่อแนวซูเปอร์ฮีโร่ ย่อมมีการถ่ายทอดทัศนคติทางสังคมและการเมืองแบบแฝงให้ผู้ชมรับรู้โดยไม่รู้ตัว เนื้อหาลักษณะนี้มีแนวโน้มที่จะดึงเราให้เห็นอกเห็นใจตัวเอกจนเราซึมซับอุดมคติบางอย่างของเรื่องไว้ เช่น อุดมคติทางชาตินิยมที่สะท้อนผ่านการต่อสู้ของฮันเตอร์เกาหลีและภาพลักษณ์ของประเทศเกาหลีใต้ในฐานะ “ประเทศเล็กที่มีหัวใจใหญ่”
ในหลายตอนของเรื่อง เรามักจะเห็นเกาหลีใต้ถูกวางไว้ในฐานะประเทศที่คอยรับมือกับวิกฤตแม้จะมีทรัพยากรที่จำกัดและกองกำลังที่เล็กกว่าเมื่อเทียบกับมหาอำนาจใกล้เคียงอย่างญี่ปุ่นและจีน ภาพของสมาคมฮันเตอร์เกาหลีที่ยังขาดความพร้อมเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน หรือการมีจำนวนฮันเตอร์แรงค์ S น้อยกว่า แสดงให้เห็นความท้าทายที่ประเทศเล็กอย่างเกาหลีต้องเผชิญอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อถึงเวลาสำคัญ เช่น ศึกแห่งเกาะเชจู ที่ต้องเผชิญกับมอนสเตอร์ระดับ S ซึ่งฮันเตอร์ญี่ปุ่นและมหาอำนาจอื่นๆ ไม่สามารถจัดการได้ เป็นฮันเตอร์เกาหลีที่มีทรัพยากรน้อยกว่ากลับสามารถยืนหยัดและพลิกสถานการณ์ได้อย่างกล้าหาญ ซึ่งชวนให้ผู้ชมรู้สึกภาคภูมิใจในความกล้าหาญและความเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีใต้
ตัวเรื่องยังเน้นให้เห็นว่า เมื่อเกิดเกตขนาดใหญ่ขึ้นในญี่ปุ่นและเหล่าฮันเตอร์ระดับสูงจากทั่วโลกถูกหมายหัวโดยมอนสเตอร์ที่มีพลังเหนือมนุษย์ กลับมีฮีโร่เพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับทุกคนได้ ฮีโร่คนนั้นคือ ซองจินอู ฮันเตอร์จากเกาหลี กล่าวได้ว่า Solo Leveling สะท้อนภาพของประเทศเกาหลีใต้ที่ไม่ยอมแพ้และสามารถสร้างตัวตนที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันรุนแรง แม้ว่าจะเป็นประเทศที่เล็กกว่าและมีอุปสรรคมากกว่า แต่เกาหลีใต้ก็ยังสามารถยืนหยัดเป็นผู้นำได้ และไม่ใช่แค่ตัวละครเอกอย่างซองจินอูที่ก้าวขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่ประเทศเกาหลีเองก็ดูเหมือนจะเติบโตไปพร้อมๆ กับเขา
ท้ายที่สุดแล้ว ความฝันที่ถูกถ่ายทอดผ่าน Solo Leveling อาจเป็นเสมือนนิทานก่อนนอนที่ปลุกเร้าใจชายชาวเกาหลีให้ตั้งเป้าในอนาคต วันหนึ่งพวกเขาจะเติบโต จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ จะกลายเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งจนโลกต้องยอมรับ แม้จะมีมหาอำนาจที่ดูเหมือนเหนือกว่า แต่ด้วยจิตวิญญาณแห่งความอดทนและความมุ่งมั่น เกาหลีจะไม่แพ้ญี่ปุ่น อีกไม่นานจีนและอเมริกาก็จะต้องจับตามอง
อุดมคติของชายผู้แข็งแกร่งกับภาพลักษณ์ของหญิงที่ยังคงต้องพึ่งพิง
เมื่อพิจารณาถึง Solo Leveling ในฐานะที่เป็นการ์ตูนที่สะท้อนค่านิยมของสังคมเกาหลี อุดมคติของตัวละครและบทบาทที่ปรากฏออกมาในเรื่องย่อมสะท้อนค่านิยมที่ซ่อนอยู่ของสังคม โดยเฉพาะในแง่ของการวางภาพลักษณ์อุดมคติของชายและหญิง ซึ่งแม้จะไม่ชัดเจนในด้านการต่อต้านเฟมินิสม์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เห็นถึงการเสริมสร้างเสรีภาพของหญิงในมุมมองสมัยใหม่
ซองจินอู พระเอกผู้เป็นชายหนุ่มในอุดมคติของเกาหลี ไม่ใช่เพียงตัวละครที่แกร่งและพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อน เขายังเป็นตัวแทนของชายที่สมบูรณ์แบบตามมาตรฐานที่คนเกาหลีใฝ่ฝัน นั่นคือความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ในร่างผอมเพรียวแบบไอดอลเกาหลี — ไม่ใช่กล้ามเนื้อแบบนักเลงหรือนักสู้โฮกฮาก แต่เป็นความแข็งแกร่งแบบมีคลาส น่าดึงดูดในแง่ความเงียบขรึมและสุขุม นี่คือภาพแทนของชายที่สมบูรณ์แบบในแบบฉบับเกาหลี ที่มีทั้งรูปลักษณ์และความสามารถที่เหนือมนุษย์ เป็นผู้นำที่ทุกคนต้องพึ่งพิง
เมื่อหันมาดูบทบาทของผู้หญิงในเรื่องนี้ หากซองจินอูคือตัวแทนของชายในอุดมคติ หญิงสาวที่อยู่เคียงข้างย่อมต้องกลายเป็นภาพแทนของหญิงสาวในอุดมคติของเกาหลีเช่นกัน ตัวอย่างหนึ่งคือ ชาแฮอิน ฮันเตอร์แรงค์ S ผู้เก่งกาจ แต่แม้เธอจะได้รับบทบาทเป็นฮันเตอร์หญิงที่มีความสามารถเทียบเท่าผู้ชาย เธอก็ยังต้องกลับมาสู่บทบาทของหญิงสาวที่อ่อนแอและต้องการการปกป้องจากชายที่แข็งแกร่งกว่า — ซึ่งคือซองจินอู
เรื่องนี้ยังใช้ความสัมพันธ์ที่แฝงด้วยไดนามิกการพึ่งพิงระหว่างชาย-หญิงเพื่อสร้างความโรแมนติก โดยไม่เพียงแต่ฮีลเลอร์สาวที่อ่อนแอในตอนแรกเท่านั้น แต่ในองค์ที่ผ่านมาชาแฮอินเองก็ต้องได้รับการปกป้องอยู่เสมอ หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์บุกเกาะเชจูที่เธอเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบจากมอนสเตอร์หนักที่สุด เหล่านี้สะท้อนถึงอุดมคติที่ผู้หญิง แม้จะมีความสามารถเพียงใด ก็มักต้องพึ่งพาชายที่แข็งแกร่งกว่าเพื่อปกป้องเธอ ความเชื่อมโยงนี้ชัดเจนขึ้นเมื่อชาแฮอินตัดสินใจย้ายมาอยู่กับกิลด์ของซองจินอู เพราะลึกๆ แล้วเธอต้องการการปกป้องจากชายที่เธอเชื่อมั่นและเชิดชู นี่สะท้อนว่าผู้หญิงใน Solo Leveling จำเป็นต้องมีความสวยและความสามารถ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการยอมรับบทบาทของตนในฐานะผู้ที่ต้องพึ่งพิงชายผู้อยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าเสมอ
ในมุมของสังคมผู้ชาย สิ่งนี้คล้ายกับการเล่านิทานก่อนนอนในอุดมคติของชายเกาหลี ภาพของซองจินอูที่แกร่งที่สุดสามารถครองใจหญิงสาวผู้อ่อนแอกว่าและต้องการการปกป้องยังคงเป็นอุดมคติที่สื่อออกมาได้อย่างชัดเจนผ่านบทบาทเหล่านี้ แม้กระทั่งในรายชื่อฮันเตอร์ระดับชาติที่ทรงพลังในเรื่อง เราก็ไม่เห็นตัวละครหญิงที่ได้รับบทบาทที่ทรงอำนาจหรือแข็งแกร่งในแบบที่พึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ นี่ชี้ให้เห็นว่า แม้เรื่องราวจะสนุกสนานและชวนติดตาม แต่ก็แฝงด้วยนัยยะที่ผู้หญิงยังต้องคงความอ่อนแอให้ชายที่แข็งแกร่งกว่าได้ปกป้องเสมอ
สรุป: เว็บตูนแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่สะท้อนความคิดสังคม
เว็บตูน Solo Leveling นับเป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยเส้นสายสวยงามและเนื้อหาตื่นเต้นที่ทำให้ผู้อ่านหลงใหลไปกับพลังพิเศษของพระเอก ซองจินอู ซึ่งพัฒนาตนเองขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถึงแม้พล็อตหลักจะเน้นไปที่การต่อสู้และการเพิ่มพูนพลังของตัวเอก แต่นั่นก็ทำให้โครงสร้างเรื่องกลายเป็นเส้นตรง คาดเดาได้ง่ายว่าพระเอกจะต้องเอาชนะอุปสรรคไปได้เสมอ โครงเรื่องแบบนี้ส่งผลให้การพัฒนาของซองจินอูเน้นไปที่ด้านพลังเป็นหลัก โดยที่พัฒนาการภายในหรือความซับซ้อนเชิงจิตใจไม่ได้รับการเน้นเท่าที่ควร (แม้จะมีช่วงที่แสดงถึงความอ่อนแอในจิตใจของซองจินอูช่วงท้ายเรื่อง แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเขา struggle หรือตัดสินใจลำบากสักเท่าไหร่ ปัญหาทางจิตใจเขานั้นแก้ได้ง่ายเหมือนกับปัญหาภายในดันเจี้ยนนั่นแหละ จึงไม่ขอมองว่ามันคือการถ่ายทอดความลุ่มลึกของจิตใจ แต่เป็นการใช้ปัญหาจิตใจมาเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่พระเอกจะต้องเอาชนะต่างหาก เป็นแค่ plot device ที่ทำให้พระเอกดูซับซ้อนกว่าที่เป็น)
ตัวเรื่องเริ่มจากเกตแรงค์ E ค่อยๆ ขยายสเกลไปยังระดับโลกและระดับจักรวาล ซึ่งแม้จะเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดให้คนอ่านติดตามการพัฒนาพลัง แต่ก็ทำให้ความรู้สึกตื่นเต้นลดลงเมื่อโครงเรื่องวนเวียนอยู่กับการใช้พลังที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นวิธีแก้ปัญหา จึงเกิดความซ้ำซากไปบ้าง อย่างไรก็ตาม Solo Leveling ไม่ได้มีดีแค่ความมันส์สะใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนกระแสในสังคมเกาหลี ทั้งในเรื่องแนวคิดทุนนิยม ความเป็นชาตินิยม และประเด็นสตรีนิยมในแบบที่สังคมเกาหลีมองเห็น
ท้ายที่สุด แม้จะเป็นการเดินเรื่องที่เส้นตรงและเน้นพลังมากกว่าความซับซ้อนของตัวละคร แต่เว็บตูนเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นผลงานที่ให้ความบันเทิงและมีความน่าสนใจสำหรับผู้อ่านหลายๆ คน
Related posts
ว่าด้วยอาชีพนางสนม: จากเซลสาวสู่เส้นทางสายนางสนม
เรื่องราวของ กู้ชิงจู๋ และ ฉีเซวียน
Pokémon Go and My Inner Hoarder: A Sobering Reflection
It’s 2024, and somehow, I’ve found myself back in the digital clutches of Pokémon Go, the mobil